เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [55. ภัททิยวรรค] 6. กาฬุทายีเถราปทาน
[166] พระชินเจ้าทรงเป็นศาสดา
ผู้ประเสริฐกว่าผู้นำ(เจ้าลัทธิ)ทั้งหลาย
ทรงรู้แจ้งสิ่งที่เป็นคุณและสิ่งที่เป็นโทษ
เป็นผู้กตัญญูกตเวที ทรงประกอบเหล่าสัตว์ไว้ในท่า1
[167] ทรงเป็นสัพพัญญู ทรงมีอัธยาศัยเอ็นดู
เป็นที่สั่งสมแห่งอนันตคุณ
ทรงพิจารณาด้วยพระญาณนั้นแล้ว
จึงทรงแสดงธรรมที่ประเสริฐ
[168] บางครั้งพระชินเจ้านั้น ผู้มีความเพียรมาก
มีพระปัญญาบริสุทธิ์
แสดงธรรมที่ประกอบด้วยสัจจะทั้ง 4 อันไพเราะ
แก่หมู่ชนเป็นอนันต์
[169] สรรพสัตว์ประมาณ 100,000 ได้บรรลุธรรม
เพราะได้สดับธรรมที่ประเสริฐ มีความงามในเบื้องต้น
ท่ามกลาง และที่สุดนั้น
[170] ครั้งนั้น แผ่นดินก็สั่นสะเทือน
และ เมฆก็คำรน เหล่าเทวดา พรหม
มนุษย์ และอสูร ต่างก็แซ่ซ้องสาธุการ
[171] โอ พระศาสดาทรงประกอบด้วยพระกรุณา
โอ พระสัทธรรมเทศนา
โอ พระชินเจ้าผู้ทรงช่วยหมู่สัตว์
ที่จมลงในสมุทรคือภพขึ้นมาได้
[172] เมื่อหมู่สัตว์พร้อมทั้งมนุษย์
เทวดา และพรหม เกิดความสังเวชเช่นนี้แล้ว
พระชินเจ้าได้ทรงสรรเสริญสาวก
ผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายฝ่ายทำตระกูลให้เลื่อมใส

เชิงอรรถ :
1 ในท่า ในที่นี้หมายถึงประกอบคือให้สรรพสัตว์ดำรงอยู่ในมรรคที่เป็นมหากุศลซึ่งเป็นอุบายในการบรรลุนิพพาน
ด้วยการแสดงธรรม (ขุ.อป.อ. 2/166/328)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :313 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [55. ภัททิยวรรค] 6. กาฬุทายีเถราปทาน
[173] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเกิดในตระกูลอำมาตย์ในกรุงหงสวดี
เป็นผู้นำมาซึ่งความเลื่อมใส น่าชม มีทรัพย์
และมีธัญญาหารเหลือล้น
[174] ข้าพเจ้าเข้าไปยังวิหารหังสาราม
ไหว้พระตถาคตพระองค์นั้น
ได้ฟังธรรมที่ไพเราะ และทำสักการะแด่พระองค์ผู้คงที่
[175] ข้าพเจ้าหมอบลงแทบพระยุคลบาทแล้ว ได้กราบทูลคำนี้ว่า
ข้าแต่พระมุนี ภิกษุรูปใดในศาสนาของพระองค์
เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายฝ่ายทำตระกูลให้เลื่อมใส
[176] ข้าแต่พระมหาวีระ ข้าพระองค์พึงเป็นเหมือนภิกษุรูปนั้น
ในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุดด้วยเถิด
ครั้งนั้น พระศาสดาผู้ประกอบด้วยพระมหากรุณา
เมื่อจะใช้น้ำอมฤตรดข้าพเจ้า
[177] ได้ตรัสกับข้าพเจ้าว่า ลุกขึ้นเถิดลูก
เธอจักได้ตำแหน่งนี้สมความปรารถนา
บุคคลทำสักการะในพระชินเจ้าแล้ว
จะพึงเป็นผู้ปราศจากผลได้อย่างไรเล่า
[178] ในกัปที่ 100,000 นับจากกัปนี้
พระศาสดาพระนามว่าโคดม ตามพระโคตร
ทรงสมภพในราชสกุลโอกกากราช จักอุบัติขึ้นในโลก
[179] เขาจักมีนามว่ากาฬุทายี
เป็นธรรมทายาท เป็นโอรสที่ธรรมเนรมิต
เป็นสาวกของพระศาสดาพระองค์นั้น
[180] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้ฟังพุทธพยากรณ์นั้นแล้ว
เป็นผู้เบิกบาน มีจิตประกอบด้วยเมตตา
บำรุงพระชินเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำวิเศษ
ด้วยปัจจัยทั้งหลายจนตลอดชีวิต

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :314 }